lovely

Friday, December 28, 2007

Happy new year 2008 !

May each day in this year be a good day and may all of your hopes turn to wishes and may all of your wishes come true. Happy New Year to You!
ขอให้ทุกวันตลอดปีนี้ เป็นวันที่แสนดี และขอให้ทุกความหวังของคุณ กลายเป็นความปรารถนา และทุกปรารถนานั้น ขอให้พลันเป็นจริง สุขสันต์วันปีใหม่จ้ะ!
ใกล้จะปีใหม่เข้ามา ในเมื่อสิ่งที่ตั้งใจไว้ปีที่แล้วว่าจะทำ แต่ไม่ได้ทำ ก็ยังไม่สายหากจะเริ่มต้นใหม่ในปีหน้านี้นะคะ เจอข้อคิดดีๆ เลยเอามาฝากให้อ่านไว้เตือนใจ หากทำไม่ได้ครบทั้ง 100 ข้อ แต่เป้าหมายที่ 50 ก็ยังดีนะคะ

( 1 ) เอาใจเขามาใส่ใจเรา
( 2 ) เชื่อมั่นตัวเอง
( 3 ) อย่ามองคนที่หน้าตา
( 4 ) กล้าคิด พูด และทำ
( 5 ) เมื่อมีเรื่องจงหมั่นปรึกษาผู้อื่น
( 6 ) และจงเป็นที่ปรึกษาให้ผู้อื่นด้วย
( 7 ) อย่าโกหกกับเรื่องที่คุณคิดว่าผิด
( 8 ) ไว้ใจบุคคลที่สมควรไว้ใจ
( 9 ) เปิดใจให้กว้าง
( 10 ) มองการณ์ไกล
( 11 ) วางแผนอนาคต
( 12 ) อย่าโทษตัวเอง
( 13 ) มีความรับผิดชอบ
( 14 ) ตอบแทนเมื่อได้รับ
( 15 ) ให้ในสิ่งที่ผู้อื่นอยากได้หรือไม่มี
( 16 ) อย่าใช้อารมณ์ แต่จงใช้ความคิด
( 17 ) คิดถึงส่วนรวมให้มาก
( 18 ) ดูแลตัวเองให้เป็น
( 19 ) รู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี
( 20 ) อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า
( 21 ) อย่ารู้ค่าสิ่งที่อยู่กับเราต่อเมื่อเราสูญเสียมันไปแล้ว
( 22 ) จงรู้ตัวอยู่เสมอว่าตอนนี้กำลังทำอะไร
( 23 ) ที่ทำอยู่มีผลดี / เสีย มีประโยชน์ / ไร้ประโยชน์
( 24 ) อย่าวัวหายแล้วล้อมคอก
( 25 ) ให้อภัยแก่ตนเอง และ ผู้อื่น
( 26 ) อย่าเก็บอดีตมาทำร้ายตัวเอง แต่จงหัดที่จะเรียนรู้จากมัน
( 27 ) คนไม่ผิดคือคนที่ไม่เคยทำอะไร
( 28 ) ได้หน้าอย่าลืมหลัง
( 29 ) คุณไม่ใช่พระเจ้า อย่าคิดซ่อมความรู้สึกที่เสียไปแล้ว แต่จงวางแผนที่จะดูแลไม่ให้มันเสีย
( 30 ) อย่าอ่านข้อความที่มีประโยชน์ผ่านๆ
( 31 ) อ่านแล้วคิด คิดแล้วทำ หมั่นพัฒนาตนเอง
( 32 ) รู้จักแบ่งเวลาและหน้าที่
( 33 ) ทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมบ้าง
( 34 ) อย่าเห็นแก่ตัว
( 35 ) อย่ารอคอยในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
(36 ) อย่ากลัวในสิ่งที่ตนสามารถสู้ หรือ เปลี่ยนแปลงมันได้
( 37 ) กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ หัดเติมให้คนอื่น แล้วเขาจะกลับมาเติมให้คุณเอง
( 38 ) เพื่อนไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากันก็คุยกันได้
( 39 ) อย่าคิดว่าเขาไม่โทรมา ถ้าคุณก็ไม่เคยโทรหาเขาเช่นกัน
( 40 ) จงเป็นฝ่ายให้มากกว่าฝ่ายรับ
( 41 ) ดูแลบิดา มารดาให้ดี คุณมีโอกาสรีบทำซะก่อนจะไม่มี
( 42 ) อย่าเสียใจกับสิ่งที่เลวร้ายหรือสูญเสียไปแล้ว มันไม่กลับมาแต่คุณสามารถทำมันใหม่หรือเรียนรู้จากมันได้
( 43 ) คำพูดเมื่อพูดออกไปแล้ว ไม่สามารถเรียกกลับได้ ดังนั้นคิดก่อนพูด
( 44 ) อย่าทุ่มเทกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์
( 45 ) คำพูดให้กำลังใจคนได้ ปลอบใจได้ ยุให้ทะเลาะกันได้ ทำให้เสียความรู้สึกได้ จงรู้ที่จะพูด
( 46 ) ชีวิตไม่ใช่เกม พลาดแล้วเริ่มใหม่หรือกดโหลดได้
( 47 ) หาจุดหมายให้กับชีวิต
( 48 ) เครียดได้ แต่เครียดให้เป็น
( 49 ) ถ้างง เขียนหนังสือได้แต่เขียนให้เป็นภาษา
( 50 ) วันๆ หนึ่งคุณทำอะไรไปบ้างที่ไม่ใช่กิน นอน เล่น
( 51 ) ไม่มีหมอคนไหนรอให้คนไข้จะตาย แล้วค่อยช่วยหรอกนะ
( 52 ) เพื่อนคุณก็เช่นกันอย่าปล่อยให้เขา เครียดจนจะตายแล้วถึงไปถามหรือดูแล
( 53 ) ร่างกายไม่ใช่เครื่องจักร ให้มันพักผ่อนซะบ้าง
( 54 ) คุณซื้อนาฬิกาได้แต่คุณซื้อเวลาไม่ได้
( 55 ) ตอนนี้มีใครคอยคุณอยู่รึเปล่า ? ถ้ามีกลับไปหาซะ
( 56 ) ตอนนี้คุณคอยใครอยู่รึเปล่า ? จะคอยอย่างนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ? ทำอะไรซะบ้าง
( 57 ) อย่ากล่าวคำว่าขอโทษบ่อย มีอะไรดีๆตั้งหลายอย่างที่ทำแล้วไม่ต้องตามขอโทษ
( 58 ) ตอนคุณลำบากคุณคิดถึงใคร ? คุณอยากให้ใครช่วยเหลือ ?
( 59 ) ตอนนี้คุณสบายอยู่ ? แล้วคนที่คุณเคยขอความช่วยเหลือล่ะ ? หมดประโยชน์ ?
( 60 ) ไม่ใช่ ? แล้วไง ?? ต้องให้บอกต่อมั้ย ???
( 61 ) ทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองมีความสุข แต่อย่าบนทุกข์ของผู้อื่น
( 62 ) ตอนที่คุณกำลังอ่านประโยคนี้ จงรู้ไว้ซะว่าคุณเป็นมนุษย์และยังมีชีวิตอยู่
( 63 ) ใครเป็นคนทำให้คุณมีชีวิต ? ตอบแทนเขาบ้างหรือยัง ?
( 64 ) ไม่ต้องรอให้ถึงวันพิเศษใดๆ แค่เข้าไปบอกว่ารักเขาก็เพียงพอแล้ว
( 65 ) อย่ารอให้ถึงวันเกิดเพื่อน ถึงจะได้คุยกันหรือให้ของขวัญกัน
( 66 ) ไม่มีกฎหมายใดห้ามให้ของขวัญในวันธรรมดา
( 67 ) ถ้าเป็นคุณอยู่ดีๆมีเพื่อนเอาขนมมาให้ คุณจะรู้สึกดีไหม ? หรือว่าดูที่ราคาขนม ?
( 68 ) เหล้าทำให้คุณลืมได้ตอนเมาแอ๋ แต่เพื่อนแท้ทำให้คุณลืมเรื่องร้ายๆได้ตลอดชีวิต
( 69 ) อย่าคิดว่าตนเองไม่มีเพื่อนหรือไม่มีใคร อย่างน้อยๆถ้าคุณได้อ่านข้อความนี้ จงรู้ไว้ว่าคุณยังมีผู้เขียนอีกคน
( 70 ) อย่าคิดว่าตนเป็นคนที่โชคร้ายที่สุด และอย่าคิดว่าตนเองเป็นคนที่โชคดีที่สุด
( 71 ) อย่าพูดคำว่าไม่มาเป็นเราไม่รู้หรอก ถ้าคุณก็ไม่รู้เรื่องของเขาเช่นกัน
( 72 ) เหนื่อยแล้วพักซะเถอะ อย่าฝืนอ่านต่อเลย คนเขียนดีใจมากแล้วที่คุณอ่านถึงตรงนี้
( 73 ) อย่าคิดว่าคนดีไม่มีในสังคม เพราะคุณก็เป็นคนเพียงแต่คุณยังไม่ได้ทำอะไรบางอย่าง
( 74 ) ปริศนาในเกมคุณแก้ได้ แล้วทำไมปริศนาในชีวิตคุณแก้ไม่ได้ ในเมื่อบทสรุปก็อยู่ในตัวคุณ ?
(75) คุณมองเพชรมองที่ความงามภายใน หรือป้ายราคาข้างนอก?
( 76 ) ถ้าคุณกินอาหารเหลือ ลองนึกถึงเด็กที่ไม่มีอันจะกิน
( 77 ) มีเรื่องราวอีกมากมาย ที่ไม่ได้เขียนอยู่ในหนังสือลองค้นคว้าดูจะรู้
( 78 ) ลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจากหน้าไม้ อันตรายน้อยกว่าหอกที่แทงมาจากข้างหลัง
( 79 ) การถูกหักหลังเป็นสิ่งที่เจ็บปวด อย่าให้มันเกิด
( 80 ) ทำยังไง ?? ต้องขโมยขึ้นบ้านก่อนถึงไปดูแลรั้วบ้านใช่มั้ย ??
(81) ทำใจกับสิ่งต่างๆล่วงหน้าไว้บ้างก็ดี
(82) จะยกตัวอย่างให้ สมมุติคนที่คุณรักจากไปตอนนี้ คุณคิดว่าคุณทำอะไรให้เขาบ้างหรือยัง??
(83) อย่าตอบว่าทำยังไงก็ตอบแทนไม่หมด ขอถามว่าทำรึยัง? ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ?
(84) คุณทำใจได้แล้วหรือถ้ามันเกิดอะไรขึ้น? คุณไปร้องไห้ข้างโลงศพ ยังไงเขาก็ไม่ฟื้นหรือได้ยินหรอกนะ ?
(85) ตัวคุณมีคุณค่าอยู่แล้ว อยู่ที่คุณรู้จักดึงมันออกมาใช้ได้รึเปล่า??
(86) หัดคุยกับตัวเองซะบ้าง แล้วจะรู้ว่ามีอะไรอีกมากที่คุณไม่รู้?
(87) ร่างกายใช้มากี่ปีแล้ว เคยดูแลมันบ้างรึเปล่า? หรือเอาไว้เพื่อให้วิญญาณมีที่สิงสถิตย์
( 88 ) การใส่เสื้อสวยๆ ไม่ช่วยให้ร่างกายดีขึ้นหรอกนะ ที่ดีขึ้นคือบุคลิกต่างหาก
( 89 ) หาความสุขของตัวเองให้เจอ หัดมีความสุขซะบ้าง อดีตเราลืมไม่ได้แต่เลิกคิดได้
( 90 ) ลองทำอะไรบ้าๆดูบ้างก็ดี อย่ายึดติดกับอะไรนักเลย
( 91 ) ผู้เขียนไม่ใช่คนรู้อะไรมากมาย ไม่ได้มาโชว์ว่าตัวเองอวดรู้ แต่อยากให้คุณได้รู้อะไรไว้บ้างก็ดี
( 92 ) สิ่งที่คุณปล่อยผ่านๆไปในชีวิต หรือ เรื่องที่คุณเห็นว่าไม่สำคัญ กลับมาดูแลตรงนั้นบ้างก็ดี
( 93 ) อย่าไว้ใจใครเกินไป ไม่ได้สอนให้ระแวงไม่ไว้ใจใคร แต่ระวังไว้บ้างก็ดี
( 94 ) อย่าตามเพื่อนนัก กินเหล้ากิน เล่นไพ่เล่น เที่ยวหญิงเที่ยว
( 95 ) ยาเสพย์ติดทุกชนิด อย่าคิดจะลองเด็ดขาด
( 96 ) อย่าทำตามเพราะเพื่อนทำกันหมด ร่างกายเขากะร่างกายเราคนละร่างกายกัน แน่นอนจิตใจก็เหมือนกัน
( 97 ) ผู้ชายยังไงก็คือผู้ชาย ผู้หญิงก็คือผู้หญิง
( 98 ) บางครั้งการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป
( 99 ) ไม่มีมิตรถาวร และ ศัตรูที่แท้จริง
( 100 ) จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อตัวเราเอง คนที่เรารัก และคนที่อยู่รอบกายเรา

Tuesday, December 04, 2007

H.M. THE KING'S BIRTHDAY

The 5th December is His Majesty the King Bhumibol Adulyadej's birthday or วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว in Thai language. This public holiday is celebrated nationwide as Father's Day ("WAN PHO HENG CHAT" - วันพ่อแห่งชาติ). The King is considered as the father of all Thai people.

Born in 1927, His Majesty the King has captured the hearts of the Thai people through his devotion to improving the welfare and well-being of his subjects.

His H.M. the King Rama IX is highly recognised among Thai society because he always takes care about his people. Each year he used to go up-country to visit villages and towns to talk to people and to know their problems. He is not a King far away from his people. He has created many foundations and has done many projects to improve the life of his people. He was responsible of projects which helped hill tribes to replace their opium culture with substitution cultures.

The Avenue Ratchadamnoen Klang, which is containing many administrative building, is festooned with colorful lights. This street ends to Sanam Luang, the area in front of Wat Phra Kaew. In the middle of the avenue Ratchadamnoen Klang, many huge and beautiful portraits of the King are displayed.

Each year in the evening of the 5th december, a free huge concert is organized in Sanam Luang, the area in front of Wat Phra Kaew in Bangkok. It is a great honour for singers to be invited to play one song in the concert dedicated to the King. Some of them sing songs composed by the King himself. Every kind of Thai music is played such as Molam, Thai country music, pop, Disco Dance and also every kind of singers from very old one to teenagers in order to give satisfaction to the crowd.

Saturday, December 01, 2007

แหล่งวัฒนธรรมเกาะเกร็ด

เกาะเกร็ดเกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงส่วนที่เป็นแหลม ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2265 เรียกว่า “คลองลัดเกร็ดน้อย” (คลองลัดเกร็ดใหญ่อยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ขุดลัดแม่น้ำเจ้าพระยาตอนท้ายอำเภอสามโคกมาทางใต้ถึงคลองขวางเชียงราก) ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางแรงขึ้นเซาะตลิ่งทำให้คลองขยาย แผ่นดินตรงแหลมจึงกลายเป็นเกาะ ชื่อที่เรียกนั้น ชื่อเดิมเรียกว่า เกาะศาลากุน

เกาะเกร็ดมีความเจริญมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สังเกตได้จากวัดวาอารามต่างๆบนเกาะส่วนใหญ่จะเป็นศิลปะในสมัยอยุธยา แต่คงจะมาร้างคนเมื่อพม่ามายึดกรุงศรีอยุธยาได้ หลังจากกอบกู้เอกราชได้ พระเจ้าตากสินมหาราชจึงโปรดให้ชาวมอญที่เข้ารีตมาตั้งถิ่นฐานที่นี่ ชาวมอญบนเกาะเกร็ดนั้นมีทั้งที่เข้ามาในสมัยกรุงธนบุรี และสมัยรัชกาลที่ 2 ต่อมาเมื่อตั้งอำเภอปากเกร็ดขึ้นแล้วเกาะศาลากุน จึงมีฐานะเป็นตำบลและเรียกว่าตำบลเกาะเกร็ด เกาะนี้จึงมีชื่อว่า เกาะเกร็ด

แบ่งเขตการปกครองเป็นหมู่บ้านรวมทั้งสิ้น 7 หมู่บ้านโดยมีบ้านเรือนตั้งอยู่ริมแม่น้ำมีวัดปรมัยยิกาวาสเป็นศูนย์กลางชุมชนเนื่องจากเป็นวัดเก่าแก่มีศิลปะการสร้างแบบมอญ มีพระนอนองค์ใหญ่ ภาพเขียนฝาผนัง และการสลักหินอ่อนแบบรามัญที่โบสถ์ นอกจากนี้ยังมีวัดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง คือวัดไผ่ล้อม, วัดฉิมพลี เป็นวัดที่มีศิลปะและลวดลายหน้าบันของโบสถ์คล้ายที่วัดสุทัศน์ แต่มีขนาดเล็กกว่า เกาะเกร็ดนับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจใกล้กรุงเทพฯ อีกแห่ง สามารถเดินทางโดยจอดรถที่ท่าปากเกร็ด แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปเที่ยวเกาะได้