lovely

Monday, March 03, 2008

“คำว่าเพื่อน”

“คำว่าเพื่อน”

A friend is a tissue when you can't stop crying
เพื่อน คือ กระดาษทิชชู...เมื่อยามที่เราร้องไห้ไม่หยุด

A friend is a shoulder when you feel like dying
เพื่อน คือหัวไหล่...ให้เราซับ เมื่อเรารู้สึกย่ำแย่

A friend always listen when you have something to say
เพื่อนรับฟังทุกอย่าง...เวลาเรามีเรื่องจะพูด

A friend is a week when you need a day
เพื่อนคือสัปดาห์ เมื่อคุน ต้องการวัน

A friend is a crutch when you have a broken heart
เพื่อน คือไม้ดามหัวใจ...เวลาที่คุนอกหัก

A friend is some glue when everything falls apart
เพื่อน คือ กาว...เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างดูจะแตกสลาย

A friend is a sun when the rain just won't stop
เพื่อน คือ แสงอาทิตย์...เมื่อฝนไม่หยุดตก

A friend is you mom when you run into a cop
เพื่อนคล้ายกับแม่...หากเราต้องขึ้นโรงพัก

A friend is a phone call when you can't leave your home
เพื่อนคือ โทรศัพท์เมื่อคุน ไม่สามารถออกจากบ้านได้

A friend is a hand when you feel all alone
เพื่อนคือ มือ...เมื่อเรารุ้สึกเปล่าเปลี่ยว...(ขอจับมือหน่อยนะ)

A friend is a wing if you want to fly
เพื่อน คือ ปีก ... หากคุนอยากจะบิน

A friend understand without knowing why
เพื่อน จะเข้าใจเราทุกอย่าง โดยปราศจากคำถามว่าทำไม

A friend is an ear for a secret to tell
เพื่อนคือหู...เพื่อเอาไว้ฟังทุกเรื่อง(โดยเฉพาะเรื่องลับๆ)

A friend is an aspirin when your head hurts like hell
เพื่อนคือ แอสไพริน...เมื่อเราปวดหัว

A friend is a love that can never let go
เพื่อน คือความรักที่คุนไม่ต้องค้นหา

A friend is you and, and I wanted you to know!!
เพื่อนคือคุน...ฉันอยากให้คุนรู้

I hope ... a FRIENDSHIP between you & me is forever more...
ฉันหวังว่า..มิตรภาพระหว่างเราจะเปนแบบนี้ตลอดไป

Saturday, February 16, 2008

Makabucha Day

Makabucha Day

Makabucha Day is a Buddhist holiday which takes place annually on the night of the full moon duringthe third lunar month of the year.


It first took place during the time of Lord Buddha over 2500 years ago when 1,250 monks all of whom were ordained by Lord Buddha himself decided to come back to see Lord Buddha at Weluwan Wanaram without prior appointment on the night of the full moon of the third lunar month after traveling around to teach about Buddhism. Because it was the first assembly of a large group of Buddhist monks, Lord Buddha gave them Owata Patimok which is considered the firstconstitution for all the laws of Buddhist monks.
The 3 core teachings are:
1. Refrain from committing all kinds of wickedness
2. Be good and do good
3. Purify the mind

Activities of the Day
To allow Buddhists in Thailand an opportunity to perform religious activities on this special day, the Thai government makes Makabucha Day a national holiday.
There are many activities in which people can choose to participate.
Early in the morning Buddhists give food to the monks. They may make merit by freeing fish and birds.
During the day they listen to the teaching of Lord Buddha and practise meditation.
The evening they perform a religious activity called Wian Tian by walking clockwise 3 timesaround the Bot or the main building of the temple.They carry a lighted candle, 3 incense sticks and flowers in their hands. The first round of the walk is to think of Lord Buddha, the founder of Buddhism (Phra Phut) . The second round is to think of the teachings of Lord Buddha (Phra Tham) and the last round is to think of monks (Phra Song) who carry on and practise the teachings of Lord Buddha.

Wednesday, January 16, 2008

~เคล็ดลับดีดีก่อนสอบจ้า~
1.อ่านหนังสือเป็นประจำแต่เนิ่นๆ นอนไม่ควรดึกมาก พอพรุ่งนี่เช้าไปสอบ จะได้ไม่เบลอ (เพราะถ้าเบลอเพื่อนๆจะคิดไรไม่ออกนะ)

2.กินข้าวเช้าไปอิ่มๆ จะได้ไม่หิวเวลาสอบ
3.เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย

4.หากำลังใจดีดีไม่ว่าจะเป็นจากคุนพ่อคุนแม่หรือ แฟน ก็ได้ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่แถวๆสนามสอบ เพื่อจะได้มีกำลังใจเพิ่มขึ้นอีก
5.ตอนอยู่หน้าห้องสอบ ไม่ต้องเอาหนังสือมานั่งอ่าน มันจะลนจนลืมหมด ให้เปิดดูเฉพาะสูตรที่จำไม่ได้

6.มั่นใจว่าต้องทำได้ แล้วเดี๋ยวคะแนนมันก็พุ่งเองแหละ อย่าไปเสียใจกะคะแนนที่ลองทำข้อสอบเก่าๆ เพราะมันไม่เหมือนกันแน่ๆ

7.หากทำข้อไหนไม่ได้ให้ข้ามไปก่อน อย่ามัวเสียเวลากะข้อเก่าๆ

8.อย่าลืมอุปกรณ์สอบไม่ว่าจะเปนยางลบ ดินสอ2B ปากกา ใบสมัครสอบ บัตรนักเรียน และบัตรต่างให้พร้อม

9. ออกมาจากห้องสอบแล้ว อย่าได้ไปคุยกะเพื่อนๆเรื่องข้อสอบเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้เสียความรู้สึกว่าตอบข้อนั้นผิดข้อนี้ผิด ซึ่งเราอาจจะทำถูกก้ได้ มันจะทำให้เสีย SelF

10.สอบเสร็จจงอย่าท้อถอย ต้องคิดว่า เราต้องได้

~อันนี้สำคัญสุด เวลาอาจารย์สอนต้องตั้งใจฟัง ไม่เข้าใจก้อต้องถาม และที่สำคัญต้องขยันอ่านหนังสือนะ เพราะถึงแม้ว่าคะแนนสอบจะไม่ดี แต่คะแนนเก็บที่เราสะสมมาจะช่วยฉุดให้คะแนนอยู่ในระดับดีแน่นอนจ้า~

Friday, December 28, 2007

Happy new year 2008 !

May each day in this year be a good day and may all of your hopes turn to wishes and may all of your wishes come true. Happy New Year to You!
ขอให้ทุกวันตลอดปีนี้ เป็นวันที่แสนดี และขอให้ทุกความหวังของคุณ กลายเป็นความปรารถนา และทุกปรารถนานั้น ขอให้พลันเป็นจริง สุขสันต์วันปีใหม่จ้ะ!
ใกล้จะปีใหม่เข้ามา ในเมื่อสิ่งที่ตั้งใจไว้ปีที่แล้วว่าจะทำ แต่ไม่ได้ทำ ก็ยังไม่สายหากจะเริ่มต้นใหม่ในปีหน้านี้นะคะ เจอข้อคิดดีๆ เลยเอามาฝากให้อ่านไว้เตือนใจ หากทำไม่ได้ครบทั้ง 100 ข้อ แต่เป้าหมายที่ 50 ก็ยังดีนะคะ

( 1 ) เอาใจเขามาใส่ใจเรา
( 2 ) เชื่อมั่นตัวเอง
( 3 ) อย่ามองคนที่หน้าตา
( 4 ) กล้าคิด พูด และทำ
( 5 ) เมื่อมีเรื่องจงหมั่นปรึกษาผู้อื่น
( 6 ) และจงเป็นที่ปรึกษาให้ผู้อื่นด้วย
( 7 ) อย่าโกหกกับเรื่องที่คุณคิดว่าผิด
( 8 ) ไว้ใจบุคคลที่สมควรไว้ใจ
( 9 ) เปิดใจให้กว้าง
( 10 ) มองการณ์ไกล
( 11 ) วางแผนอนาคต
( 12 ) อย่าโทษตัวเอง
( 13 ) มีความรับผิดชอบ
( 14 ) ตอบแทนเมื่อได้รับ
( 15 ) ให้ในสิ่งที่ผู้อื่นอยากได้หรือไม่มี
( 16 ) อย่าใช้อารมณ์ แต่จงใช้ความคิด
( 17 ) คิดถึงส่วนรวมให้มาก
( 18 ) ดูแลตัวเองให้เป็น
( 19 ) รู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี
( 20 ) อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า
( 21 ) อย่ารู้ค่าสิ่งที่อยู่กับเราต่อเมื่อเราสูญเสียมันไปแล้ว
( 22 ) จงรู้ตัวอยู่เสมอว่าตอนนี้กำลังทำอะไร
( 23 ) ที่ทำอยู่มีผลดี / เสีย มีประโยชน์ / ไร้ประโยชน์
( 24 ) อย่าวัวหายแล้วล้อมคอก
( 25 ) ให้อภัยแก่ตนเอง และ ผู้อื่น
( 26 ) อย่าเก็บอดีตมาทำร้ายตัวเอง แต่จงหัดที่จะเรียนรู้จากมัน
( 27 ) คนไม่ผิดคือคนที่ไม่เคยทำอะไร
( 28 ) ได้หน้าอย่าลืมหลัง
( 29 ) คุณไม่ใช่พระเจ้า อย่าคิดซ่อมความรู้สึกที่เสียไปแล้ว แต่จงวางแผนที่จะดูแลไม่ให้มันเสีย
( 30 ) อย่าอ่านข้อความที่มีประโยชน์ผ่านๆ
( 31 ) อ่านแล้วคิด คิดแล้วทำ หมั่นพัฒนาตนเอง
( 32 ) รู้จักแบ่งเวลาและหน้าที่
( 33 ) ทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมบ้าง
( 34 ) อย่าเห็นแก่ตัว
( 35 ) อย่ารอคอยในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
(36 ) อย่ากลัวในสิ่งที่ตนสามารถสู้ หรือ เปลี่ยนแปลงมันได้
( 37 ) กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ หัดเติมให้คนอื่น แล้วเขาจะกลับมาเติมให้คุณเอง
( 38 ) เพื่อนไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากันก็คุยกันได้
( 39 ) อย่าคิดว่าเขาไม่โทรมา ถ้าคุณก็ไม่เคยโทรหาเขาเช่นกัน
( 40 ) จงเป็นฝ่ายให้มากกว่าฝ่ายรับ
( 41 ) ดูแลบิดา มารดาให้ดี คุณมีโอกาสรีบทำซะก่อนจะไม่มี
( 42 ) อย่าเสียใจกับสิ่งที่เลวร้ายหรือสูญเสียไปแล้ว มันไม่กลับมาแต่คุณสามารถทำมันใหม่หรือเรียนรู้จากมันได้
( 43 ) คำพูดเมื่อพูดออกไปแล้ว ไม่สามารถเรียกกลับได้ ดังนั้นคิดก่อนพูด
( 44 ) อย่าทุ่มเทกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์
( 45 ) คำพูดให้กำลังใจคนได้ ปลอบใจได้ ยุให้ทะเลาะกันได้ ทำให้เสียความรู้สึกได้ จงรู้ที่จะพูด
( 46 ) ชีวิตไม่ใช่เกม พลาดแล้วเริ่มใหม่หรือกดโหลดได้
( 47 ) หาจุดหมายให้กับชีวิต
( 48 ) เครียดได้ แต่เครียดให้เป็น
( 49 ) ถ้างง เขียนหนังสือได้แต่เขียนให้เป็นภาษา
( 50 ) วันๆ หนึ่งคุณทำอะไรไปบ้างที่ไม่ใช่กิน นอน เล่น
( 51 ) ไม่มีหมอคนไหนรอให้คนไข้จะตาย แล้วค่อยช่วยหรอกนะ
( 52 ) เพื่อนคุณก็เช่นกันอย่าปล่อยให้เขา เครียดจนจะตายแล้วถึงไปถามหรือดูแล
( 53 ) ร่างกายไม่ใช่เครื่องจักร ให้มันพักผ่อนซะบ้าง
( 54 ) คุณซื้อนาฬิกาได้แต่คุณซื้อเวลาไม่ได้
( 55 ) ตอนนี้มีใครคอยคุณอยู่รึเปล่า ? ถ้ามีกลับไปหาซะ
( 56 ) ตอนนี้คุณคอยใครอยู่รึเปล่า ? จะคอยอย่างนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ? ทำอะไรซะบ้าง
( 57 ) อย่ากล่าวคำว่าขอโทษบ่อย มีอะไรดีๆตั้งหลายอย่างที่ทำแล้วไม่ต้องตามขอโทษ
( 58 ) ตอนคุณลำบากคุณคิดถึงใคร ? คุณอยากให้ใครช่วยเหลือ ?
( 59 ) ตอนนี้คุณสบายอยู่ ? แล้วคนที่คุณเคยขอความช่วยเหลือล่ะ ? หมดประโยชน์ ?
( 60 ) ไม่ใช่ ? แล้วไง ?? ต้องให้บอกต่อมั้ย ???
( 61 ) ทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองมีความสุข แต่อย่าบนทุกข์ของผู้อื่น
( 62 ) ตอนที่คุณกำลังอ่านประโยคนี้ จงรู้ไว้ซะว่าคุณเป็นมนุษย์และยังมีชีวิตอยู่
( 63 ) ใครเป็นคนทำให้คุณมีชีวิต ? ตอบแทนเขาบ้างหรือยัง ?
( 64 ) ไม่ต้องรอให้ถึงวันพิเศษใดๆ แค่เข้าไปบอกว่ารักเขาก็เพียงพอแล้ว
( 65 ) อย่ารอให้ถึงวันเกิดเพื่อน ถึงจะได้คุยกันหรือให้ของขวัญกัน
( 66 ) ไม่มีกฎหมายใดห้ามให้ของขวัญในวันธรรมดา
( 67 ) ถ้าเป็นคุณอยู่ดีๆมีเพื่อนเอาขนมมาให้ คุณจะรู้สึกดีไหม ? หรือว่าดูที่ราคาขนม ?
( 68 ) เหล้าทำให้คุณลืมได้ตอนเมาแอ๋ แต่เพื่อนแท้ทำให้คุณลืมเรื่องร้ายๆได้ตลอดชีวิต
( 69 ) อย่าคิดว่าตนเองไม่มีเพื่อนหรือไม่มีใคร อย่างน้อยๆถ้าคุณได้อ่านข้อความนี้ จงรู้ไว้ว่าคุณยังมีผู้เขียนอีกคน
( 70 ) อย่าคิดว่าตนเป็นคนที่โชคร้ายที่สุด และอย่าคิดว่าตนเองเป็นคนที่โชคดีที่สุด
( 71 ) อย่าพูดคำว่าไม่มาเป็นเราไม่รู้หรอก ถ้าคุณก็ไม่รู้เรื่องของเขาเช่นกัน
( 72 ) เหนื่อยแล้วพักซะเถอะ อย่าฝืนอ่านต่อเลย คนเขียนดีใจมากแล้วที่คุณอ่านถึงตรงนี้
( 73 ) อย่าคิดว่าคนดีไม่มีในสังคม เพราะคุณก็เป็นคนเพียงแต่คุณยังไม่ได้ทำอะไรบางอย่าง
( 74 ) ปริศนาในเกมคุณแก้ได้ แล้วทำไมปริศนาในชีวิตคุณแก้ไม่ได้ ในเมื่อบทสรุปก็อยู่ในตัวคุณ ?
(75) คุณมองเพชรมองที่ความงามภายใน หรือป้ายราคาข้างนอก?
( 76 ) ถ้าคุณกินอาหารเหลือ ลองนึกถึงเด็กที่ไม่มีอันจะกิน
( 77 ) มีเรื่องราวอีกมากมาย ที่ไม่ได้เขียนอยู่ในหนังสือลองค้นคว้าดูจะรู้
( 78 ) ลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจากหน้าไม้ อันตรายน้อยกว่าหอกที่แทงมาจากข้างหลัง
( 79 ) การถูกหักหลังเป็นสิ่งที่เจ็บปวด อย่าให้มันเกิด
( 80 ) ทำยังไง ?? ต้องขโมยขึ้นบ้านก่อนถึงไปดูแลรั้วบ้านใช่มั้ย ??
(81) ทำใจกับสิ่งต่างๆล่วงหน้าไว้บ้างก็ดี
(82) จะยกตัวอย่างให้ สมมุติคนที่คุณรักจากไปตอนนี้ คุณคิดว่าคุณทำอะไรให้เขาบ้างหรือยัง??
(83) อย่าตอบว่าทำยังไงก็ตอบแทนไม่หมด ขอถามว่าทำรึยัง? ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ?
(84) คุณทำใจได้แล้วหรือถ้ามันเกิดอะไรขึ้น? คุณไปร้องไห้ข้างโลงศพ ยังไงเขาก็ไม่ฟื้นหรือได้ยินหรอกนะ ?
(85) ตัวคุณมีคุณค่าอยู่แล้ว อยู่ที่คุณรู้จักดึงมันออกมาใช้ได้รึเปล่า??
(86) หัดคุยกับตัวเองซะบ้าง แล้วจะรู้ว่ามีอะไรอีกมากที่คุณไม่รู้?
(87) ร่างกายใช้มากี่ปีแล้ว เคยดูแลมันบ้างรึเปล่า? หรือเอาไว้เพื่อให้วิญญาณมีที่สิงสถิตย์
( 88 ) การใส่เสื้อสวยๆ ไม่ช่วยให้ร่างกายดีขึ้นหรอกนะ ที่ดีขึ้นคือบุคลิกต่างหาก
( 89 ) หาความสุขของตัวเองให้เจอ หัดมีความสุขซะบ้าง อดีตเราลืมไม่ได้แต่เลิกคิดได้
( 90 ) ลองทำอะไรบ้าๆดูบ้างก็ดี อย่ายึดติดกับอะไรนักเลย
( 91 ) ผู้เขียนไม่ใช่คนรู้อะไรมากมาย ไม่ได้มาโชว์ว่าตัวเองอวดรู้ แต่อยากให้คุณได้รู้อะไรไว้บ้างก็ดี
( 92 ) สิ่งที่คุณปล่อยผ่านๆไปในชีวิต หรือ เรื่องที่คุณเห็นว่าไม่สำคัญ กลับมาดูแลตรงนั้นบ้างก็ดี
( 93 ) อย่าไว้ใจใครเกินไป ไม่ได้สอนให้ระแวงไม่ไว้ใจใคร แต่ระวังไว้บ้างก็ดี
( 94 ) อย่าตามเพื่อนนัก กินเหล้ากิน เล่นไพ่เล่น เที่ยวหญิงเที่ยว
( 95 ) ยาเสพย์ติดทุกชนิด อย่าคิดจะลองเด็ดขาด
( 96 ) อย่าทำตามเพราะเพื่อนทำกันหมด ร่างกายเขากะร่างกายเราคนละร่างกายกัน แน่นอนจิตใจก็เหมือนกัน
( 97 ) ผู้ชายยังไงก็คือผู้ชาย ผู้หญิงก็คือผู้หญิง
( 98 ) บางครั้งการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป
( 99 ) ไม่มีมิตรถาวร และ ศัตรูที่แท้จริง
( 100 ) จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อตัวเราเอง คนที่เรารัก และคนที่อยู่รอบกายเรา

Tuesday, December 04, 2007

H.M. THE KING'S BIRTHDAY

The 5th December is His Majesty the King Bhumibol Adulyadej's birthday or วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว in Thai language. This public holiday is celebrated nationwide as Father's Day ("WAN PHO HENG CHAT" - วันพ่อแห่งชาติ). The King is considered as the father of all Thai people.

Born in 1927, His Majesty the King has captured the hearts of the Thai people through his devotion to improving the welfare and well-being of his subjects.

His H.M. the King Rama IX is highly recognised among Thai society because he always takes care about his people. Each year he used to go up-country to visit villages and towns to talk to people and to know their problems. He is not a King far away from his people. He has created many foundations and has done many projects to improve the life of his people. He was responsible of projects which helped hill tribes to replace their opium culture with substitution cultures.

The Avenue Ratchadamnoen Klang, which is containing many administrative building, is festooned with colorful lights. This street ends to Sanam Luang, the area in front of Wat Phra Kaew. In the middle of the avenue Ratchadamnoen Klang, many huge and beautiful portraits of the King are displayed.

Each year in the evening of the 5th december, a free huge concert is organized in Sanam Luang, the area in front of Wat Phra Kaew in Bangkok. It is a great honour for singers to be invited to play one song in the concert dedicated to the King. Some of them sing songs composed by the King himself. Every kind of Thai music is played such as Molam, Thai country music, pop, Disco Dance and also every kind of singers from very old one to teenagers in order to give satisfaction to the crowd.

Saturday, December 01, 2007

แหล่งวัฒนธรรมเกาะเกร็ด

เกาะเกร็ดเกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงส่วนที่เป็นแหลม ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2265 เรียกว่า “คลองลัดเกร็ดน้อย” (คลองลัดเกร็ดใหญ่อยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ขุดลัดแม่น้ำเจ้าพระยาตอนท้ายอำเภอสามโคกมาทางใต้ถึงคลองขวางเชียงราก) ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางแรงขึ้นเซาะตลิ่งทำให้คลองขยาย แผ่นดินตรงแหลมจึงกลายเป็นเกาะ ชื่อที่เรียกนั้น ชื่อเดิมเรียกว่า เกาะศาลากุน

เกาะเกร็ดมีความเจริญมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สังเกตได้จากวัดวาอารามต่างๆบนเกาะส่วนใหญ่จะเป็นศิลปะในสมัยอยุธยา แต่คงจะมาร้างคนเมื่อพม่ามายึดกรุงศรีอยุธยาได้ หลังจากกอบกู้เอกราชได้ พระเจ้าตากสินมหาราชจึงโปรดให้ชาวมอญที่เข้ารีตมาตั้งถิ่นฐานที่นี่ ชาวมอญบนเกาะเกร็ดนั้นมีทั้งที่เข้ามาในสมัยกรุงธนบุรี และสมัยรัชกาลที่ 2 ต่อมาเมื่อตั้งอำเภอปากเกร็ดขึ้นแล้วเกาะศาลากุน จึงมีฐานะเป็นตำบลและเรียกว่าตำบลเกาะเกร็ด เกาะนี้จึงมีชื่อว่า เกาะเกร็ด

แบ่งเขตการปกครองเป็นหมู่บ้านรวมทั้งสิ้น 7 หมู่บ้านโดยมีบ้านเรือนตั้งอยู่ริมแม่น้ำมีวัดปรมัยยิกาวาสเป็นศูนย์กลางชุมชนเนื่องจากเป็นวัดเก่าแก่มีศิลปะการสร้างแบบมอญ มีพระนอนองค์ใหญ่ ภาพเขียนฝาผนัง และการสลักหินอ่อนแบบรามัญที่โบสถ์ นอกจากนี้ยังมีวัดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง คือวัดไผ่ล้อม, วัดฉิมพลี เป็นวัดที่มีศิลปะและลวดลายหน้าบันของโบสถ์คล้ายที่วัดสุทัศน์ แต่มีขนาดเล็กกว่า เกาะเกร็ดนับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจใกล้กรุงเทพฯ อีกแห่ง สามารถเดินทางโดยจอดรถที่ท่าปากเกร็ด แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปเที่ยวเกาะได้

Tuesday, November 06, 2007

รู้ไว้ใช่ว่า-ประโยชน์ของพืชผักผลไม้ต่างๆค่ะ

ประโยชน์ของพืชผักผลไม้ต่างๆค่ะ
-หน่อไม้ - หน่อไม้สด ควรกินคู่กับใบหญ้านาง (เป็นการล้างพิษของหน่อไม้ออก) ช่วยขยายหลอดเลือด - หน่อไม้ดอง บำรุงไต ล้างยา ล้างพิษ - หัวไช้เท้า ล้างยา ล้างพิษ ฉะนั้นคนป่วยกินยาไม่ควรกิน - ใบโหระพาและสับปะรด ปั่นน้ำ ช่วยเพิ่มเม็ดเลือด (ใบโหระพาเป็นยาอายุวัฒนะ) - เหงือกปลาหมอ กับพริกไทย กับน้ำผึ้ง เป็นยาอายุวัฒนะ - ใบกระเพรา ต้นน้ำดื่ม ช่วยขับลม อาจเติมกูลโครสให้เด็กอยากดื่มก็ได้ - ใบเตย กับ ใบมะนาว ช่วยเพิ่มเม็ดเลือด - ใบเตย กับ แก่นขนุน ช่วยเพิ่มเม็ดเลือด - ผักชี กับสับปะรด ช่วยเพิ่มเม็ดเลือด - ใบยอ นึ่ง คั้นน้ำ หรือปั่น กินแก้ปวดข้อ ไม่ควรกินสดเพราะมีสารพิษ - ใบยอ ปั่นกับสับปะรด เพิ่มเม็ดเลือด ใบยอเผา ปิ้ง ยำ หรือใส่ในห่อหมก แก้ไอ คัดจมูก - เนื้อลูกยอ กินหน้าหนาว เช่นส้มตำลูกยอดิบ ล้างพิษได้ กินฤดูอื่น ช่วยขับพยาธิ ควรได้กินปีละครั้ง - ลูกยอสุก เอาเม็ดออก ผสมยาสระผมสมุนไพร แก้เหา แก้คันจากไรฝุ่น ใช้ขับประจำเดือนอย่างแรง (ระวังอาจแท้งได้) ลูกยอมีฮอร์โมนเอสโตรเจน และตัวเบื่อเมา ใช้สับปะรดใส่ช่วยดับกลิ่นลูกยอได้ - ขี้เหล็ก ช่วยขับถ่ายดี เพิ่มเม็ดเลือด นอนหลับดี ไม่ควรกินสด เพราะมีสารพิษ - สะเดา ถ้ากินน้อย กินสดไม่เป็นไร ถ้ากินมาก ควรทำให้สุกก่อน - สะเดาสด ลวก ช่วยระบบท้องดี เพิ่มน้ำย่อย ลดไข้ ล้างไขมัน อย่าทานทุกวัน จะปวดเมื่อยตัว - โรคเก๊าท์ รักษาโดยการกินลูกเดือยแทนข้าว 80 % ของอาหาร 3 มื้อใน 7 วันจะหายได้ - เห็ดหูหนูดำ เม็ดบัว งาดำ กินบำรุงไต - เห็ดหูหนูขาว บำรุงปอด - เห็ดมีโปรตีนที่ดูดซึมได้ดีกว่าเนื้อสัตว์ ถั่ว มีกรดอมิโน สลายสารและต้านอนุมูลอิสระ - ขนุน บำรุงหัวใจ - กลอย เป็นอาหารแป้ง ช่วยอุ้มไขมันไปทิ้ง เหมือน มันเทศ บุก กรอบภูเขา ฮ่วยซัว - มันเทศ กินแก้อ่อนเพลีย แก้ม้ามชื้น ซึ่งทำให้อ้วนง่าย กินแล้วผอม - มันสำปะหลัง กินแล้วอ้วน กินตอน 9.00 น เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย - ใบมะยม กินสดหรือต้มน้ำ (ต้มทั้งก้าน) แก้เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ลดปวดหัว บำรุงตับอ่อน ช่วยปรับระดับน้ำตาลในสมดุล ช่วยระบาย บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย ทำให้เจริญอาหาร ช่วยย่อย หรือใช้สูตรต้มกับหมูสับหรือเต้าหู้กินบำรุงกำลังดี กากใยของใบมะยมยังช่วยขับไขมันได้ดีด้วย จึงควรปลูกมะยมไว้ประจำบ้าน ปลูกในกระถางก็ได้ การหักให้หักทั้งกิ่งที่ยอดเพื่อให้มันแตกกิ่งเพิ่ม - รากเตย ต้มน้ำ ดื่มแก้เบาหวาน ดีกับตับอ่อน - ใบขลู่ (ไม่แน่ใจว่าสะกดคำถูงต้องหรือไม่) ช่วยลดไขมันในเลือดได้ดี โดยเอาใบขลู่ต้มกับกระเจี๊ยบ-พุทราจีน หรือนำมาผัดหมู่สับ ใส่ขึ้นฉ่าย และเกี้ยมบ๊วย แก้ริดสีดวงทวาร ลดเบาหวาน - ใบขลู่ ปั่นกับสับปะรด เพิ่มเม็ดเลือด หรือตากแห้ง นำมาชงดื่มแบบชาก็ดี - ใบเตยดีกับหัวใจ - หัวต้นหอมดีกับปอด หางกินแล้วเย็น - กระชาย จักรพรรดิแห่งสมุนไพร (โสมไทย) ดีกว่าโสมเพราะไม่มีสารที่เป็นพิษ มี 3 สีคือ กระชายเหลือง มีโอสถสารสูงสุด หาง่าย กระชายแดง หายาก กระชายดำ ประโยชน์ แก้ความดันสูง เลือดเป็นลิ่ม ฟื้นฟูตับ ต่อมไร้ท่อ ไต หัวใจ เพศ ทำให้ผมดำ เพิ่ม ฮอร์โมนเอสโตรเจน แคลเซียม เพิ่มสเปิร์ม แก้กระดูกเสื่อม บำรุงสมอง แก้ปวดข้อ ปวดกระดูก ปวดแข้ง ปวดขา ขับลม ให้กำลัง ทำให้ไข่พยาธิฝ่อ กินพร้อมเปลือก กินได้ทั้งต้น ไม่มีพิษ วิธีทำ ใช้กระชาย ½ กิโล คั้นน้ำ 2 ลิตร แยกกาก เก็บในตู้เย็นไว้ดื่ม ตำก็ได้ ผสมน้ำผลไม้ก็ได้ กากไม่ควรกิน เพราะจะดูดโอสถสารกลับ กากใช้ผสมเหล้ากับน้ำตาลทราย พอกเข่าแก้ปวดได้ ใช้เลี้ยงกุ้ง โตเร็ว ไม่ขี้โรค ใช้ฆ่าเชื้อโรคได้ ปลอดภัย ล้างผัก ผลไม้ดีที่สุด ไม่มีสารตกค้างที่ร่างกายไม่ต้องการ การคั้นน้ำได้โอสถสารมากที่สุด การต้มจะเหลือแค่การขับลม การดองเหล้าก็ได้ กินแล้ว คึกทางเพศ กระชาย ที่ใส่ฟอร์มารีนให้แช่ด้วยน้ำเกลือ ล้างออกได้ - น้ำใบบัวบก บำรุงสมอง - เม็ดบัว ต้มให้เปื่อย ใส่น้ำตาลกรวด ช่วยฟื้นไข้ ฟื้นกำลัง เพิ่มสเปิร์ม เพิ่มโอกาสตั้งครรห์ - แปะก๊วย กับใบบัวบก กับใบพู่ระหง บำรุงผม - แปะก๊วยมีประโยชน์เหมือนลูกบัว แต่น้อยกว่า และแพงกว่า - ถั่ว 5 สี (กะยาคู) เป็นยาอายุวัฒนะ ถั่วขาว บำรุงปอด ถั่วแดง บำรุงหัวใจ ถั่วดำ บำรุงไต ถั่วเหลือง บำรุงม้าม ถั่วเขียว บำรุงตับ ใส่เพิ่มลูกเดือย มันเทศก็ได้ - ขมิ้นชัน มีวิตามิน เอ ซี อี บี รวม เบต้าแครอทีน สังกะสี สารสีเหลือง Curcumin ที่ไม่มีในอย่างอื่น ช่วยล้างไขมันในตับ แต่ไม่ล้างพิษ ป้องกันมะเร็ง กินก่อนนอน กินมากไม่มีผลเสีย ช่วยให้ผิวสวย ต้านหวัด ขจัดเซลล์ร้าย เซลล์มะเร็ง (การทำคีโมขจัดเซลล์ทุกอย่าง) ต้านอนุมูลอิสระ แบบผงละลายน้ำดื่มแก้ท้องผูก เปลือกขมิ้นชันกินไม่ได้ มีพิษ กินขมิ้นชันตอนตี 3 บำรุงปอด ผิว ตี 5 บำรุงลำไส้ใหญ่ ฟื้นปลายประสาท ไม่เป็นริดสีดวง 7 น บำรุงกระเพาะ ทำให้เนื้อแน่น 9 น แก้น้ำเหลืองเสีย เก๊า เบาหวาน ลดความอ้วน 11 น เป็นต้นไป บำรุงตับ ผิว ถ้าทานแล้วท้องเสีย ร่างการกำลังขับพิษ ให้หยุดแล้วเริ่มทานแต่น้อย กิน 10 – 20 แคปซูล ตอนเช้าแก้ท้องผูกได้ - น้ำมะพร้าวอ่อน ช่วยเพิ่มฮอร์โมน เอสโตรเจน สำหรับเพศหญิง บำรุงผม เนื้อมะพร้าว ถ้าอ่อนเป็นวุ้น มีฮอร์โมนเอสโตรเจน ถ้าเนื้อขาวแข็งมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโลน - กะทิ สด ละลายในน้ำได้ดี (ไม่เหมือนไขมัน) ช่วยล้างหลอดเลือด ขับพญาธิ ฆ่าฤทธิ์ ช่วยระบาย - ลูกไข่เน่า ผลไม้สีดำ คล้ายพุทรา เม็ดลีบ กลืนได้ ช่วยระบบขับถ่าย กินแล้วหัวดี กินสดหรือดองน้ำเกลือ บำรุงไต กระดูก แก้กระดูกผุ บำรุงระบบเพศ สมอง ต่อมไร้ท่อ เหมือนกระชาย มีแคลเซียมสูง - ใบหญ้าหวาน (สเตอเวีย) เป็นน้ำตาลธรรมชาติที่มีประโยชน์ มีความหวานเป็น 40 เท่า ต้นน้ำดื่ม บำรุงตับอ่อน ธาตุ แก้ เบาหวาน เพิ่มกำลังวังชา สมานแผลทั้งภายในและภายนอก กินใหม่ๆน้ำตาลจะเพิ่ม แต่ไม่อ่อนเพลีย กินต่อไปน้ำตาลในเลือดจะลด ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมอง - น้ำหญ้าหวาน (บำรุงม้าม ธาตุ) ต้มกับเห็ดหูหนูดำ (บำรุงไต) กับน้ำตาลกรวด (บำรุงปอด) ดื่มเพิ่มพลัง แก้อ่อนเพลีย แต่ดื่มแล้วเย็นใน - เปลือกมังคุด ต้มน้ำกินช่วยสมานแผล - ว่านรางจืด ช่วยล้างพิษจากน้ำตาลในเลือด - ว่านหางจระเข้ ปอกเปลือก เอาเมือกเหลืองๆออก เอาวุ้นใสๆทาแก้แพ้ ผื่นแดงที่เกิดจากน้ำไม่สะอาด - ลูกเดือย บำรุงเส้นเอ็น บำรุงกระดูก แก้กระดูกแตก - ลูกเดือยต้มกับถั่วขาว ถั่วขาว 1 ส่วน ลูกเดือย 2 ส่วน ต้มน้ำ 20 เท่า กินแต่น้ำ บำรุงตับ - ลูกมะหวด มีวิตามินเอ ซี อีสูง และ ฮอร์โมนเอสโตรเจน มาก ต้านอนุมูลอิสระ ฟอกเลือด ใบใช้บ่มมะม่วงให้สุก - ฟ้าทะลายโจร เป็นยาเย็น เหมือนมะระ ถ้ากลัวเย็นไปให้กินตามด้วยน้ำขิง - เอาน้ำขิงชงชาก็ดื่มดี การชงชาไม่ควรทิ้งชาแช่ในน้ำนานเกิน 5 นาที เพราะสารแทนนิน จะออกทำให้ท้องผูกและนอนไม่หลับ - กกเตย ช่วยฟื้นฟูตับอ่อน - แกงบอน ช่วยลดความชื้นในร่างกาย ปอดชื้น ไตชื้น ม้ามชื้น - ฟักข้าว ช่วยขับพยาธิ บำรุงธาตุ ขับไรฝุ่น เอาเปลือกออกกินทั้งเนื้อทั้งเม็ด ต้มยำปลากระป๋อง - เนยใส (เนยกี) ใช้หยอดหู แก้อาการน้ำในหูไม่สมดุลหรือหยอดจมูก แก้อาการคัดจมูก - น้ำปัสสาวะ เป็นน้ำที่ได้จากการกลั่นเอาอาหารที่กินเข้าไป เหลือแยกออกมา ฉะนั้นโดยความเป็นจริง แล้วน้ำปัสสาวะสะอาด (ไม่เหมือนอุจระที่จะสกปรก) และมีสารอาหาร เกลือแร่ เลือด ที่เหลือ จากการดูดซึมเข้าร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาร อินเตอร์เฟอรอล ที่สามารถล้างพิษได้ น้ำ ปัสสาวะสามารถใช้ดื่มเพื่อล้างระบบต่างๆในร่างกายที่มีปัญหา เพียงแต่รองใส่ภาชนะเวลาถ่าย แล้วดื่มได้เลย - กุยฉ่าย ช่วยลดความดัน ฟอกเลือด - กระเจี๊ยบแดงต้มกับพุทราจีน ช่วยหัวใจ ลดโคเลสเตอรอล ลดความดัน ลดไตกีเซอไรย์ ปรับเส้นเลือดให้ยึดหยุ่น แข็ง แรง ขยาย-ล้างหลอดเลือด แก้เส้นเลือดปูด ตีบ ขอด ในหัวใจโต ริดสีดวงทวาร ขยายเส้นเลือดในไต ไตแข็งแรงขึ้น ป้องกันเลือดกำเดาไหล กระเจี๊ยบแดงกินเดี่ยวทำให้ไตเสื่อม โลหิตจาง - กระเจี๊ยบเขียว ต้มกิน ช่วยแก้ท้องผูกสำหรับผู้ป่วยที่นอนนาน - กระเจี๊ยบเขียว กินแก้พยาธิตัวจี๊ด - ลูกสำลอง กับหญ้าหวาน กับดอกคำฝอย กับเก๊กฮวย ช่วยลดโคเลสเตอรอลดี ลูกสำลองมีประโยชน์เหมือนรังนก บำรุงปอด รังนกแท้หายาก ของปลอมทำจากรากไม้ลูกหูกวางกินแล้วแล้วขาไม่มีแรง - องุ่นสีม่วง ช่วยฟอกเลือด บำรุงหัวใจ มีโปรแตสเซี่ยมสูง (กินมากไม่ดีต่อตับ) กินสดจะได้วิตามิน เอ ซี อี สูง ถ้ากวน จะมีวิตามินน้อยลง แต่ได้เอสโตรเจนเพิ่ม - ลูกเกดแห้ง บำรุงถุงนำดี ตับ ไต - - ดอกคำฝอย ถ้ากินเดี่ยวๆ จะลดโคเลสเตอรอลได้มาก อาจทำให้ซึมได้ - เก๊กฮวย กินแล้วทำให้สดชื่น - ดอกคำฝอย กับเก๊กฮวย ช่วยจับโคเลสเตอรอล แล้วลูกสำลองจะช่วยขับออก - สาหร่ายทะเล ช่วยฟอกเลือด ปรับสมดุล ลดอาการบวม นำมาอบหรือคั่ว จิ้มซีอิ้วกินอร่อย - จับฉ่าย ควรใส่หัวใช้เท้า ช่วยล้างพิษ สารตกค้าง - กล้วยน้ำว้า ช่วยปรับสมดุลระหว่างช่วงความแตกต่างของอาหาร เช่น อาหารไทย – เทศอาหารเจ – คาว ช่วงอด – ไม่อด กินก่อนการเปลี่ยนอาหาร - น้ำเต้าก็ใช้แทนกล้วยน้ำว้าได้ - พริกปาปริกา ช่วยการไหลเวียนของเลือด - ดอกแค ดอกกาสะลอง (ดอกปีบ)ช่วยบำรุงปอด ตากแห้ง ชงน้ำดื่ม - บอระเพ็ด ยาว 1 เกียก ต้นน้ำดื่มช่วยล้างระบบดูดซึมได้ ทำให้เลือดเลี้ยงสมองส่วนหน้าดี - มะขามเทศมีโซเดียมและแคลเซียมสูง เปลือกใช้ทำยาย้อมผม และยาสระผม - มะเขือเทศ บำรุงเลือด หัวใจ แก้โรคซึมเศร้า คนที่หัวใจโต ไตไม่ดีไม่ควรกิน - อินทผารัม บำรุงไต ระบบเพศ - ดอกชุมเห็ด ทำให้ถ่ายอย่างแรง เพราะมีพิษ ควรลวกแล้วราดด้วยกะทิล้างพิษ ไม่ควรกินเกิน 3 ดอก - เห็ดหูหนูดำ ต้มกับหญ้าหวาน ใส่น้ำตาลกรวด ช่วยบำรุงกำลัง บำรุงสมอง ดีต่อปอด ไต ม้าม แต่อย่ากินตอนเย็น เพราะจะเย็นเกินไป - น้ำตาลกรวดย่อยง่ายกว่า ดูดซึมดีกว่า น้ำตาลทราย - ลำไยสด บำรุงกำลัง หัวใจ เปลือกมีสารทำให้ร้อนใน แก้โดยให้แช่น้ำเกลือก่อนแกะ หรือดื่มน้ำเกลือตาม เม็ดลำไยตากแห้งบด นำมาโรยแผลช่วยให้น้ำเหลืองแห้ง - ข้าวเหนียว 2 ส่วน ต้มกับลำไยแห้ง 1 ส่วน ใส่น้ำมากๆ กินบำรุง ปอด หัวใจ ตับ - ขิง หอม กระเทียม น้ำผึ้งมะนาว กินแก้หอบหืด ลดไขมัน - น้ำฟักทอง บำรุงไต - ของดอง ผักดอง หนำเลี้ยบ หน่อไม้ดอง บำรุงไต - หมึกในปลาหมึก ช่วยแก้ร้อนใน ปากเป็นแผล บำรุงไต ล้างระบบดูดซึม ลดโคเลสเตอรอลในปลาหมึก - กุหลาบ บำรุงหัวใจ ทำให้หายใจโล่ง รู้สึกกระปี้กระเปล่า (สีแดงในพริกด้วย) - มะละกินคู่กับ ผักดอง - ขึ้นฉ่ายคู่กับ เกี้ยมบ๊วย - ฝัก คู่กับมะนาวดอง - เม็ดแมงลัก เป็นตัวเก็บไขมันไปทิ้ง แต่กินตอนเย็นจะย่อยยาก ทำให้ท้องอืด - ดอกอันชัน - ทานสดได้ บีบมะนาวจะเป็นสีชมพู บำรุงไต ช่วยย่อย ทำให้น้ำเหลืองแห้ง - ยอดมะลุม มีเบต้า แครอลทีน ทำให้ผิวดี แก้ตกกระ มีสารเพ็กติน นิ่มๆ ฆ่าพยาธิได้ มีธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส สร้างภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ ใบต้านเบาหวาน ทำให้ขับถ่ายดี ป้องกันไมเกรน - กระท่อม ใช้แก้ท้องเสีย (เป็นสารเสพติด) ทำให้ทนแดด ทนฝน ทนงานหนัก แต่กลัวฝนจนตัวสั่น ไข่ - ควรกินไข่สุก หรือสุกขนาดเป็นมะตูมก็ได้ ไข่ดิบย่อยยาก ดูดซึมยาก - ไข่แดงเป็นโคเลสเตอรอลดี ช่วยในการดูดซึมของสารอาหารต่างๆ - ไข่เยี่ยวม้า มีสารอาหารน้อยลง แต่มีโซเดียม ฟอสเฟตสูง ช่วยบำรุงไต - ไข่เค็ม ยังมีสารอาหารครบ - ใบสัปปะรดสับ ต้มน้ำดื่ม ช่วยขับปัสสาวะ